วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2558

การประชุมในหนวยงานเพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้

คุณพ่อ คุณแม่ ทุกคนค่ะ เมื่อมีลูกก็มักอยากให้เจ้าหนูเป็น อย่างใจต้องการใช่ไหม แต่ถ้าลูกน้อยของคุณไม่เป็นต้งที่ฝัน ก็อย่า เพิ่งกล่าวโทษกันว่าเป็นความผิดของใคร เพราะการทะเลาะกันนั้น แสดงให้เห็นว่าพวกคุณยังไม่พร้อมพอที่จะมีลูก และยังเป็นตัวอย่าง ที่ลูกน้อยจะจดจำและนำไปใช้อีกด้วย
ลูกน้อยของคุณอาจจะไม่เก่ง บาร์โหนติดผนัง มีทักษะที่ดีน้อยกว่าเพื่อน หรือ เกเรบ้างเป็นบางครั้ง จนทำให้คุณรู้สึกเสียหน้าเพื่อนนิดๆ แต่ทั้ง- หมดไม่ไต้อยู่ที่เด็กเพียงอย่างเดียวนะคะ ลองมองกลับไปในวันแรกที่คุณไต้เริ่มสอนสั่งลูกน้อยด้วย ว่าคุณไต้ใส่ใจเต็มที่กับการฟูมฟัก ต้นกล้าต้นนี้ดีพอหรือเปล่า เด็กทุกคนก็ย่อมมีความพิเศษแตกต่าง กันไป คุณควรมีการสังเกตเพื่อน้ามาปรับใช้กับพฤติกรรมลูกน้อย เพิ่มขึ้นด้วย เราจึงนำทริคทั้งหมดที่ไต้จากมุมมองหนึ่งที่เช้าใจทั้ง ผูใหญ่และเด็กนำมารวมเล่ม เพื่อให้คุณพ่อ คุณแม่เช้าใจลูกน้อยไต้ มากขึ้นมาค่ะ...มาเริ่มต้นรดนั้า พรวนดิน วลีต้นกล้าต้นนี้กัน ที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเรานั้น ผู้เป็น พ่อแม่ย่อมยกให้เป็นชีวิตที่มีความสำคัญดุจดั่งแก้วตาดวงใจ ของตนนอกจากความปรารถนาจะเลี้ยงดูลูกน้อยให้เติบโตอย่าง แข็งแรงแล้ว สิ่งที่คงมิอาจปฏิเสธคือ ความปรารถนาที่จะให้ลูก โตชื้นเป็นเด็กที่ฉลาด และมีความสุขด้วยผู้เป็นพ่อแม่นั้นมักตั้งใจว่าลูกอาจไม่ต้องเป็นเด็กฉลาด ถึงขั้นอัจฉริยะ แต่ก็ขอให้มีความฉลาดเฉลียวพอที่จะรับมือกับ สิ่งที่ต้องพบเจอในชีวิตของเขาได้ตามวัยและตามวิธีที่สมควร บาร์โหนติดประตู ซึ่งแน่นอนว่าเมื่ออบรมเลี้ยงดูให้ลูกเป็นเด็กที่เก่งแล้ว ก็ยังต้อง ให้เขามีความสุขด้วยซึ่งข้อนื้น่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยมีหลายตัวอย่างที่เราคงเคยเห็นไต้ว่าพ่อแม่บางท่านนั้น เลี้ยงลูกแบบคาดหวังมากที่จะให้ลูกน้อยเป็นเด็กที่เก่งมากๆ ซึ่ง  เวลาที่เด็กทำอะไรไม่ดี ทำสิ่งที่ไม่ควรทำ พ่อแม่ก็ อาจดีงความสนใจด้วยคำพูดหรือ วิธีการสอนที่อ่อนโยน เพื่อที่ เด็กจะได้เปลี่ยนแปลง หันไปสนใจทำในสิ่งที่ดีกว่าแทน เช่น หาก ว่าเด็กๆ ชอบขีดเขียนผนังบ้านจนเลอะเฑอะ ก็หาสมุดวาด เขียนมาให้ขีดเขียนแทเด็ก ๆ ควรมีอิสระในการพูดและการแสดงความคิดเห็น ในเรื่องต่างๆ มีอะไรก็สามารถพูดคุยปรึกษาหารือกับพ่อแม่ได้  พูดตรงๆ อธิบายเหตุผลอย่างกระชับและชัดเจนสั้นๆ และได้ใจความ ยิ่งเป็นเด็กเล็ก ๆ ยิ่งต้องพูดให้สั้น และกระชับที่สุด เช่น หากว่าเด็กชอบดูดนิ้วหัวแม่มือ ก็อธิบายว่าอาจมีเชื้อโรค หรือวิ่งเล่นชื้นลงบันได ก็บอกถึงอ้นตรายที่อาจเกิดชื้นวางตัวเป็นแบบอย่างที่ดี เพราะเด็กๆ ส่วนใหญ่นั้น ชอบเลียนแบบการกระทำของผู้ใหญ่  บาร์โหนเพิ่มกล้าม การที่พ่อแม่วางตัวดี ทำ แต่สิ่งที่ดีๆ ลูกเห็นย่อมเป็นเรื่องที่ดี ดีกว่าการสอนด้วยคำพูด เพียงอย่างเดียวแน่นอนเมื่อเด็กทำความดี เรื่องดีๆ ควรได้รับคำชื่นซม หรือ อาจมีรางวัลแล้วแต่กรณี การชื่นซมด้วยการแสดงความรัก เช่น การกอด การหอมแก้ม เป็นภาษากายที่ลูอบอุ่น สร้างความ ผูกพันระหว่างพ่อแม่กับลูก ได้อย่างดีทีเดียว

บาร์โหน

วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่ที่ได้เรือยางไปใช้

แน่นอนว่ามีคนที่ไม่สมควรมีชีวิตคู่เลย เมื่อใดที่พวกเขา แรง แต่งงาน หรอจะพูดให้ถูกต้องว่าเลียนแบบภาวะการแต่งงาน ไม่ ผลักดัน จำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงความคิดของเขา เพราะมันเปลี่ยนแปลงอยู่
ตลอดเวลาอยู่แล้ว เรือยางสูบลม และไม่มีคำแนะนำทิศทางใดในบทนี้สำหรับคน สมองมัาเหล่านึแม้ว่าจะได้ภรรยาที่แสนดี ดั่งที่ใจตนเองปรารถนา ไม่มีสุภาพบุรุษชายใดที่มีสิทธิชอบธรรมไล่เตะทุกสิ่งที่เข้ามาขวางทางโชคของเขา แน่นอนว่าเราจะต้องมองหาหนทางในการเตรียมพร้อมสำหรับการแต่งงานอย่างสุดความสามารถ ก่อนที่จะเข้ารับความรับผิดชอบนั้น อย่างน้อยเราควรจะมีดั่วสำหรับการเดินทางอยู่ในมือก่อน และภาระหน้าที่ของ สุภาพบุรุษที่แท้จริง นั้นคือ การจัดหาตั๋วการเดินทางนั้นมาให้กับคุณสุภาพสตรี ทำให้    และเนื่องจากเป็นการเดินทางที่ยาวนาน “ตวขากลับ” ไม่มี ความ        ความจำเป็นหรือจะกล่าวอีกอย่างหนึงได้ว่าผู้ชายไม่จำเป็นต้องรวยกลัาหาญ    เมือตอนที่เขาแต่งงาน แต่เขาก็จะต้องไม่ล้มละลายเช่นกัน เงินหมด หลังการฮันนีมูนนั้นเป็นบททดสอบความรักที่ดูจะโหดร้ายไปเสียหน่อย มันออกจะเหมือนกับการเชื้อเชิญความหายนะเข้ามาที่หน้าประตู บ้านอันเนื่องมาจากการขาดการคิดที่รอบคอบเสียตั้งแต่ต้นมันแสดงความเป็นผู้นำที่แย่เสียตั้งแต่เริ่มต้น และมีแนว โน้มที่จะก่อให้เกิดความตึงเครียดและความยากลำบากให้กับหัวใจ อันบอบบางของหญิงสาวที่มากจนเกินควร มันจะเป็นความผิดหวัง อันน่าเศร้าที่ต้องพบว่าผู้ชายที1เธอเลือกนั้นท้ายทีเรือยางไวนิล,สุดแล้วเป็นเพียงคน ธรรมดาคนหนึ่ง คนที่ไม่มีการวางแผนล,วงหน้า กลาการแต่งงานมีภาคปฏิบัติของมัน หากต้องการประสบความสำเร็จ ในระดับที่สูงสุด สามีและภรรยาจะต้องสร้างมิตรภาพขึ้นมาให้ได้ ไม่ใช่เรื่องที่ว่าใครจะต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่ทั้งคู่ต้องมองให้ เห็นถึงประโยชน์ของคู่ครองของตนเองด้วยหัวใจต้องพยายามอย่างหนักที่จะเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับกันและ กันชายสองคนสามารถเป็นเพื่อนซี้ที่ตายแทนกันได้ตลอดช่วง ชีวิต แต่ละคนมีความเคารพและมั่นใจในกันและกันเช่นเดียวกันกับ คู่เพื่อนหญิง แล้วทำไมสามีและภรรยาจะเป็นเช่นนั้นไม่ได้? และมีจริง ให้พบได้อยู่ไม่น้อย ความรักจะบินหนีไปก็เพียงต่อเมื่อขาดมิตรภาพ ระหว่างสามีและภรรยาสถานภาพของการแต่งงานเป็นสัญญาระยะยาว ไม่ควร เป็นความผิดพลาดของชายหรือหญิง และไม่ควรที่จะขลาดกลัว จนต้องหันหลังให้กับมันไปเสีย ความรักจะทำให้เรือยางลำกลางคนตาบอดเฉพาะ สำหรับคนที่ตาบอดอยู่แล้วเท่านั้น ทั้งสองฝ่ายมีโอกาสที่จะทราบถึง ความเสี่ยงล่วงหน้าอยู่แล้วว่า มีความปลอดภัยและมีเหตุมีผลแค่ไหนสิ่งที่ใช้ประกอบการพิจารณาคือคู่ชีวิตของเขานั้นต้องมี ความคิดที่สมเหตุสมผล มีความเข้าอกเข้าใจคนอื่น และสมบูรณ์ พร้อมดีแล้ว และเมื่อสิ่งอื่นๆ เท่าเทียมเหมาะสมกันดีแล้วเขาก็จะ สามารถตัดสินใจได้อย่างไม่ต้องมีความลังเลใดๆ เราไม,ควรเดิน เข้า

เรือยาง

วิธีการทำงานในออฟฟิตกับการทำงานนอกไซส์งานต่างกันอย่างไร

การคุยโวโอ้อวดและการวางมาด ไม่ได้ถูกออกแบบลำหรับ บุคคลที่ยิ่งใหญ่ บุคคลที่ยิ่งใหญ่ระดับชาติเกือบทุกคนมีคุณสมบัติ ที่โดดเด่นซึ่งทำหน้าที่เป็นส่วนสำคัญสำหรับความสำเร็จขั้นสูงสุด มัน คือ ความเรียบง่าย และต่อมาคือ การเข้าถึงได้มีคนที่ใจใหญ่และสมองใหญ่จำนวนมากทั่วโลก แล้วแต่ หน้าที่ซึ่งมีแตกต่างกันไป  ไล่หนูไฟฟ้า หากต้องการทำให้ภาระที่วางกองตรง หน้าของเขาสำเร็จลุล่วงไปได้ พวกเขาจะต้องได้รับการป๋องกันจาก การรบกวนจากภายนอกทั่งหมด แต่บุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่แท้จริงเหล่านี้ไม่เคยหลบหลีกจากคนรอบกายของเขาไปอย่างสิ้นเชิง เขาไม่เคยตกเป็นทาสให้กับราย-ดงดูดควๅม    ละเอียดเล็กน้อยจนไม่สามารถหาเวลาเสวนากับคนอื่นๆ และเราจะสนใจ  ไม่พบเขาหลบอยู่หลังฉากทึบกั้นไม่ให้เข้าถึง และถูกคนขี้ประจบจาก  เอาอกเอาใจดังเช่นพระราชาบนราชบัลลังก์ หรือแอบเก็บตัวอยู่อย่างสังคม    มิดชิดในออฟฟิศบางแห่ง เขาต้องการรู้จักทุกคนที่มิค่าเพียงพอและทุกคนที่มีคุณค่าพอก็จะได้รับการต้อนรับอย่างดีจากพวกเขาเขาจะไม่ทำตัวเหมือนรู้ไปหมดเสียทุกเรื่อง จนไม่สามารถ ยัดสิ่งใหม่ๆ เข้าไปได้ เขาไม่ใช่คนที่จะปฏิเสธที่การพบกับเราเมื่อ เวลาที่เหมาะสมมาถึงอย่างไรก็ตามเราไม่ควรที่จะลับสนระหว่างความยิ่งใหญ่ และความมีซื่อเสียง บุคคลที่มีเผยแพร่คุณงามความดีของตนออกล่ ประชาชนจะสามารถดึงดูดความสนใจของลังคมได้ แต่ไม่ได้หมาย ความว่าเขาต้องเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าเขาจะพยายามทำให้ ตัวเองดูเช่นนั้นเพียงใดก็ตาม ซึ่งสังเกตได้ว่าจะไม่มีวันที่เขาทำได้ ตามปาวประกาศออกมา หลังจากนั้นลักช่วงหนึ่งเขาอาจมี “ตรา” ควๅม    ของความมีซื่อเสียงประทับไว้บนหน้าผาก แต่ตังที่ลินคอล์นกล่าวไว้ยิ่งใหณ่    “คุณไม่มีวันนลอกคนอื่นไปได้ตลอด”ความมีรีเอเสิยง    สิ่งสำคัญที่ต้องให้ความสนใจอีกอย่างหนึ่ง คือ หัวเรือใหญ่ของแต่ละอุตสาหกรรมจะทำตนเองให้เป็นอิสระจากรายละเอียด หยุมหยิม   กำจัดหนู ผมมี'คนฉลาดอ^รอบตัว" เป็นคำกล่าวของ นอนดริว คาร์เนกี้ ในการบรรยายความสำเร็จของเขา และเช่นเดียวกัน บุคคล รอบตัวของเขาที่ทำหน้าที่ให้มุมมองที่กว้างขวาง และแบกรับอำนาจ และหน้าที่รับผิดชอบอันยิงใหญ่ของเขา ก็จะมีคนที่ฉลาดอยู่รอบตัว เขาไปอีกทอดหนึ่ง เพื่อที่พวกเขาจะสามารถเก็บเอาการตัดสินใจ และความคิดไว้ใช้กับนโยบายที่ใหญ่กว่าขององค์กรเสมอพวกเขาจะทำให้ตนเองว่างอยู่เป็นนิจสำหรับรับฟังคำ แนะนำจากผู้อื่น และมีคนที,อยู่เบื้องล่างพวกเขาที่มี ความคิดกล้า ที่จะเริ่มและพึ่งพาตัวเองได้ ซึ่งจะทำให้พวกเขามีเวลาในการรับดูแล เรื่องอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากธุระที่พวกเขาบริหารอยู่ คนประ๓ทนี้มัก จะกลายเป็นบุคคลที่มีบทบาทเด่นชัดอยู่ที่ในสาธารณะ และผันตัว เป็นพลเมืองที่สำคัญอีกคนหนึ่งยิ่งคนใหญ่เท่าไร เขาจะยิ่งติดชัดกับเรื่องราวต่างๆ น้อยลง โต๊ะของเขาไม,มีขยะและเรื่องจุกจิกเล็กน้อย เช่นเดียวกับจิตใจของเขา คนประ๓ทนี้จะรักษาร่างกายและจิตใจให้อยู่ในสภาพการณ์ทำงานที่ดี และจะถูกยั่วยุให้อารมณ์เสียได้ยาก  ดักหนู ความประณีตของจิตใจมีความ สำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ปรารถนาจะปีนขึ้นไปสู่จุดสูงสุดเขาไม่ยอม ปิดสมองของเขาออกจากข้อมูลข่าวสารข้างนอก เขาถูกบังตับให้ต้อง เปิดกว้าง เพื่อเปิดโอกาสให้คลื่นความคิดใหม่ๆ ไหลผ่านเข้ามา อย่างต่อเนื่อง เขาไม่ต้องการให้ลื่งที่ปรากฏเห็นอยู่ตรงหน้าเขา "ข้นหนาเป็นนานิ่งที่อ1/ในสระ"

เครื่องไล่หนู

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2558

นักฟิสิกส์ท่านหนึ่งได้ทำการทดลองห่วงยางเพื่อใช้งาน

ที'ดำรงอยู่ก่อนหน้าจักรวาลจะปรากฏตัวขึ้นมา...???“เดวิด โบห์ม” นักฟิสิกส์แห่งมหาวิทยาลัยลอนดอน ได้พยายาม เสนอทฤษฎีที่แสดงให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวของจักรวาลที่มีพลังบาง อย่างซึ่งยังคงเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับสรรพสิงทุกชนิดที่มีอยู่ในจักรวาลจนถึง ขณะนี้  ห่วงยางคอ และทำให้จักรวาลยังคงเคลื่อนไหวอยู่อย่างมีชีวิตไม่ใช่เป็นเพียง แค่นาฟิกาไขลานที่ถูกทิ้งให้เดินไปอย่างไร้จุดหมาย...???“เจมส์ เลิฟล็อค” นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยของนาซ่า ที่เคยได้ รับมอบหมายให้ศึกษาเรื่องสิ่งมีชีวิตในดาวอังคารและในเวลาต่อมาเมื่อ เขาหันมาศึกษาความเป็นไปของโลกในทางกายภาพดูบ้าง เขาก็เริ่มเสนอ ทฤษฎีว่าด้วย “ความมีชีวิต” ของโลกๆนี้ ที่ไม,ได้เป็นเพียงแค่วัตถุสสารแต่ เพียงเท่านั้น...??รูเพิร์ต เซลเดร็ค” นักชีวเคมีจากมหาวิทยาสัยเคมบริดจ์ ได้วาด ภาพพลังบางอย่างที่ไม,มีรูปร่าง ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม,มีลักษณะความเป็น สสารที่สามารถสัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัสทิ้ง 5 แต่เป็นสนามพลังที่ สามารถบันดาลให้เกิดรูปทรง,พฤติกรรม,และอุปนิสัยของสิ่งมีชีวิตในทุกชนิด หรือเป็น “สนามพลังในการก'อรูปสิ่งมีชีวิต” ขึ้นมา...???“อัมเบอร์โต มาตูรานา” และ “ฟรานซิสโก วาเลรา” ได้นำเสนอ ทฤษฎีการรับรู้ หรือ “ทฤษฎีซานติอาโก” ที่ชี้'ให้เห็น1ว่า “ความมีชีวิต” นั้น อาจจะเป็นสิ่งที่ดำรงอยู่มาก่อนหน้าที่จะเกิด “การวิวัฒนาการทางเคมี อย่างช้าๆ”และความมีชีวิตเหล่านั้นดำรงตัวอยู่ในสภาพของ“การรับรู้” หรือ “สำนักความรับรู้”...บรรดาแนวคิดเหล่านี้...ได้ถูกนำเสนอต่อผู้คนในแวดวงวิทยาศาสตร์ และต่อสาธารณชนครั้งแล้วครั้งเล่า แม้นว่ามันจะถูกปิดกั้นขัดขวาง ถูก ทำเป็นเรื่องที่ “ไม่เป็นวิทยาศาสตร์” ด้วยกรรมวิธีใดๆ ก็ตาม แต่มันก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจขจัดกวาดล้างลงไปได้ง่ายๆ มันก็ยังถูกหยิบมาพูดถึง,กล่าว ถึง,อ้างอิง...ห่วงยางเด็ก หรือแม้กระทั่งนำไปปรับใช้กับเรื่องราวทางการเมือง, เศรษฐกิจ,สังคมกันจนก่อให้เกิด “ทัศนะใหม่ๆ” ที่ปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับ “วิทยาศาสตร์แบบใหม่” อย่างเห็นได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นทุกที...ในหนังสอ “The Book Of New Age and Holistic Writing” ทีได้ รวบรวมเอา “ทัศนะแบบใหม่” และ “วิทยาศาสตร์แบบใหม่” มาแสดงให้ เห็นถึงกระแสแนวคิดชนิดนี้ ซึ่งมันเต็มไปด้วยรายชื่อและผลงานการ ค้นคว้าของนักวิทยาศาสตร์สาขาต่างๆ ไม่ว่าพีสิกสั,เคมี,ควันตัมพีสิกสั, ชีววิทยา,ซีวโมเลกุล,พันธุกรรมศาสตร์,ธรณีวิทยา...ฯลฯที่พยายามนำ เสนอทฤษฏีที่ชัดแย้งแตกต่างออกไปจากทัศนะวิทยาศาสตร์ยุคเก่าใน แบบหน้ามือเป็นหลังมือ รวมทั้งรายชื่อนักเศรษฐศาสตร์,นักสังคมวิทยาที่ พยายามนำเสนอทฤษฏีทางเศรษฐศาสตร์,สังคม,หรือไปจนถึงกระทั่ง ทฤษฏีการเมือง ฯลฯ บนพื้นฐานที่สอดคล้องไปกับทัศนะใหม่ๆ ของ วิทยาศาสตร์ในแนวใหม่อีกด้วย...???ภายใต้ทัศนะใหม่ๆ เช่นนี้...คู่ต่อล้ทางทฤษฏี “ดาร็วิน” ไม่ใช่เป็น เพียงแต่ฝ่ายนิยมศาสนาอย่างเช่นในยุคอดีตอีกต่อไปแล้ว แต่มันได้กลาย เป็นฝ่ายวิทยาศาสตร์ด้วยกันเอง ที่อาศัย “การค้นพบใหม่ๆ” ในทาง วิทยาศาสตร์นำมายืนยันและพิสูจน์หักล้างกับทฤษฏี “ดาร์วิน” มากขึ้น เรื่อยๆ และเหตุที่มันต้องปะทะชัดแย้งกับทฤษฏี “ดาร์วิน” มากขึ้นทุกที ไม่ใช่เป็นไปเพียงแค่ความพยายามแย่งชิงอำนาจเป็นสาเหตุเบื้องหลังแต่ ประการใดเลย แต่มันเป็นเพราะว่าในการค้นพบใหม่ๆ สระน้ำเด็ก ทางวิทยาศาสตร์นั้น มันทำให้เนื้อหาของวิทยาศาสตร์แนวใหม่หรือวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ เกิด การเข้าไปรวมตัวกับศาสนาด้วยตัวเอง...???ในช่างปีค.ศ.2004 เมื่อผู้ปกครองจำนวน 8 ครอบครัวของนักเรียน ในโรงเรียนโดเวอร์ แอเรืย รัฐเพนซิลเวเนียในสหรัฐอเมริกา รวมกับ

ห่วงยางเล่นน้ำ

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ในสมัยโรมมันมีการทำสงครามกันมากมายและมีการผลิตห่วงยางมาเพื่อชัยชนะ

เมื่ออำนาจของจักรวรรดิโรมันพังทลายลง...สิ่งที่หลงเหลืออยู่เป็น สัญลักษณ์ของความเป็นจักรวรรดิ ก็คงมีอยู่เพียงสถานะของพระสันตะ ปาปาแห่งกรุงวาติกันเท่านั้น และสิ่งนั้ก็มีประโยชน์ไม่น้อยต่อบรรดาผู้นำ เผ่าแต่ละเผ่าในยุโรป  ห่วงยางสูบลม ที่พยายามยึดแผ่นดิน พื้นที่ต่างๆ และตั้งตัวขึ้นเป็น “กษัตรย์” พือเปี'น “พระจักรพรรดิ”  ในแผ่นดินยุโรปสืบต่อมา...ในฐานะ เป็นสิงทีท่อให้เกิดความซอบธรรมต่ออำนาจและบารมีตัวเอง...หัวหน้าเผ่าชาวฝรั่งเศสรายหนึ่งที่ชื่อว่า “ชาร์ลสั มาแตล” ซึ่งเคย ถูกมองว่าเป็นพวกอนารยชน เพราะอ่านหนังสือไม่ออกเขียนหนังสือไม่เป็น รู้จักแต่การใช้หอกใช้ดาบเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อได้รับการสวมมงกุฎจาก พระสันตะปาปาแห่งกรุงวาติกันเท่านั้น ก็ได้ถูกเรียกขานกันในเวลาต่อมา ว่า...“จักรพรรดิออกุสตุส” แบบเดียวกับอดีตจักพรรติโรมันในยุคทองกัน เลยทีเดียว โดยมีสถานะเป็น “ผู้พิทักษ์จักรวรรดิโรมันอันคักดึ๋สิทธ” แผ่ บารมีโดดเด่นเหนือบรรดาหัวหน้าเผ่าต่างๆ ทั้งหลายโดยดุษฎี...ไม่เพียงแต่ “ความชอบธรรมทางการเมือง” เท่านั้น...ที่บรรดาพระ คริสเตียนสามารถมอบให้, ประทานให้, หรือสถาปนาให้กับบรรดาผู้ตั้งตัว เป็นกษัตริย์ หรือนักรบอัศวินในหมู่ชาวยุโรปทั้งหลาย แต่โดยสภาพชีวิต ความเป็นอยู่ของบรรดาซนเผ่าต่างๆ ในยุโรปโดยเฉพาะบรรดาราษฎร ธรรมดาสามัญ ที่จะต้องดำรงชีวิตอยู่ในฐานะชาวนา,   ทาสติดที่ดินให้กับ นักรบ, ขุนพล, แม่ทัพกันแบบตลอดชีวิต สืบทอดมรดกความเป็นทาสกัน ไปจนถึงรุ่นลูกหลานเหลนโหลน เต็มไปด้วยความทุกข์ความลำบากกัน ชนิดเลือดตาแทบกระเด็นโดยปราศจากความหวัง ปราศจากที่ยึดเหนี่ยว พึ่งพิงในด้านอื่นๆ “ศาสนาคริสต์” อันเป็นศาสนาที่โดยแก่นแท้ของ ศาสนานั้น มุ่งที่จะปลอบประโลมให้ความหวังให้ที่ยึดเหนี่ยวทางใจกับคน ทุกข์คนยากมาตั้งแต่ต้น ก็จึงกลายเป็นสิ่งที่แผ'อิทธิพลเข้าไปถึงจิตใจของ ซาวยุโรปได้ในทุกระดับมาตั้งแต่นั้น....22 แดกคุกวิทยาศาสตร์ ล้างตำนาน...ดารวัน อำนาจอิทธิพลของพวกพระที่มีต่อสังคมชาวยุโรปในระยะต้น ๆ ก็ จึงเป็นอำนาจที่ยิ่งใหญ่, กว้างขวาง, ลึกซึ้ง...แผ่ขยายครอบคลุมไปทั้ง ทางการเมือง, การปกครอง, การเศรษฐกิจ และยังควบคุมทัศนคติแนว ความคิดในด้านต่าง ๆ ของพวกฝรั่งยุโรปแทบทั้งหมด...แต่ภายใต้อำนาจอิทธิพลของพวกพระที่มืเพิ่มขึ้นๆ ในทุกๆ ด้าน อำนาจเหล่านั้นก็มีล่วนทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในหผู่พระชาวคริสต์ ไม่น้อยทีเดียว ผลประโยชน์จากศาสนลมปต, จากอิทธิพลทางการเมือง, การค้า ฯลฯ ทำให้พระจำนวนไม่น้อยแปรสภาพไปเป็นผู้ที่ชักใยอยู่เบื้อง หสังกษัตริย์, อัศวิน, ขุนนางต่างๆ จนบทบาทของพระเข้าไปพัวพันกับ การเมือง, การค้า, ธุรกิจ แสวงหาผลประโยชน์จากสถานะต่างๆ จนถึงขั้น มีการเซ็งลี้ตำแหน่งพระในแต่ละระดับ ติดสินบนเพื่อให้ได้เป็นบาทหลวง, อาร์คบิชอป ไปจนถึงติดสินบนเพื่อให้ตัวเองได้เป็นสันตะปาปากันไปเลย ก็มี...บรรดาพระที่สั่งสมอำนาจบารมี มีข้าทาสบริวารจำนวนมหาศาล มีทรัพย์สมบัติมั่งคั่ง จนกระทั้งถึงขั้นมีกองทัพของตัวเองไม่ต่างอะไรไป จากกษัตริย์, ขุนนาง, อัศวิน แถมยังมี “ความดักดี่สิทรี้” แฝงอยู่ใน อำนาจอีกต่างหาก ก็จึงสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับซาวยุโรปใน ระยะนั้นไม่น้อย นอกจากจะใช้อำนาจแย่งยื้ออิทธิพลทางการเมือง ระหว่างพระด้วยกันเอง, หรือระหว่างพระกับกษัตริย์, ขุนนาง, อัศวินแล้ว ก็ยังถึงขั้นยุยงผลักดันให้กษัตริย์,   อัศวิน ไปจนกระทั้งถึงชาวนาออกไปทำ สงครามต่างๆ ตามความต้องการของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า จนก่อให้เกิด ความรู้สึกเบื่อหน่าย, ชิงชัง, ไปจนถึงขั้นเกิดการปฏิเสธ, ต่อต้านหรือพยายาม ห่วงยางคอ“ปลดปล่อยตัวเอง” ให้เป็นอิสระจากอำนาจของศาสนจักรในทุกระดับใน เวลาต่อมา...ถ้ามองดูจากสภาพสงครามความชัดแย้งต่างๆ ที่มีบรรดาพวกพระ หรือฝ่ายศาสนจักรเข้าไปมีส่วนผลักดัน, ยุยง หรือเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ว่า ทางใดทางหนึ่งกันดูแล้ว...ก็คงต้องยอมรับว่า มันน่าจะสามารถเปลี่ยน ความยอมรับ, ความเชื่อ, ความศรัทธาให้กลายเป็นความเบื่อหน่าย, ความ ชิงชัง, หรือการปฏิเสธและต่อต้านศาสนาจักรได้ไม่ยากนัก ไม่ว่าจะเป็น “สงครามครูเสด” ที่พวกษัตริย์, อัศวิน, ตลอดไปจนถึงซาวนาถูกพระ คริสเตียนยุให้ไปรบพุ่งทำสงครามกับซาวอิสลาม ยาวนานต่อเนื่องกันมา ถึง 200 ปี...สงครามอันเนื่องมาจากการแตกหักกันเองภายในศาสนาคริสต์ ระหว่างพวก “คาทอลิก” กับพวกที่ “ปฏิเสธ” อำนาจของพระลันตะปาปา แห่งกรุงวาติกันที่เรียกกันว่าพวก “โปรเตสแตนต์” ที่ทำให้เกิดการรบพุ่ง ระหว่างพวกฝรั่งด้วยกันเอง ในระดับชาติต่อชาติหรือภายในชาติเดียวกัน จนทำให้เลือดนองไปทั่วยุโรป ไม่ว่าจะเป็นเลือดชาวอังกฤษ, ฝรั่งเศส, สเปน และโดยเฉพาะชาวเยอรมัน ที่ต้องหันมาฆ่ากันเองยืดเยื้อยาวนานถึง 30 ปีจนพลเมืองล้มตายกันไปเกือบครึ่งประเทศ...ฯลฯความเบื่อหน่ายเหล่านี้นื่เอง...ที่นำไปสู่ “การเปลี่ยนแปลงอย่าง ห่วงยางเด็ก ฉกาจฉกรรจ์” ขึ้นมาในลังคมยุโรป เมื่ออำนาจของฝ่ายศาลนจักรได้รับการ ปฏิเสธและการต่อต้านเพิ่มขึ้นๆ บทบาทอิทธิพลในด้านต่างๆ ก็จึง ค่อยๆ เสื่อมโทรมลงไป จนในท้ายที่สุดก็นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในระดับปฏิวํแติ หรือเปลี่ยนแปลงในระดับถึงรากถึงโคนในทุกๆ ต้าน ไม่ว่าในต้านการเมือง, การปกครอง, การเศรษฐกิจ...หรือแม้กระทั่ง “การเปลี่ยนแปลงทางด้าน ทัศนะความคิด”...ที1ล้วนแล้วแต่เป็นไปในลักษณะของความพยายามแยก ตัวเองออกมาจากการชี้นำของศาลนจักร หรือกระทั่ง “ปฏิเสธ” ศาสนจักร กันไปเลยก็มี...การเปลี่ยนแปลงทางด้านทัศนะหรือในด้านแนวความคิดที่ว่านี้ อาจ จะถือได้ว่า...เป็นการเปลี่ยนแปลงที่มืผลอย่างลึกซึ้ง, กว้างขวางไม่ใช่แต่ 24 นmคุกวิทยาศาสตร์ ล้างตำนาน...ดารวัน

ห่วงยางเล่นน้ำ